8 คำถามที่มาพร้อมคำตอบกับ ชีวิตหลังแต่งงาน เรามีทางออกให้แล้ว

เช็กด่วน! คุณกำลังเจอปัญหา ชีวิตหลังแต่งงาน เหล่านี้อยู่หรือเปล่า?

การแต่งงานเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่ ชีวิตหลังแต่งงาน นี่สิของจริง! แพรวเวดดิ้งได้รวบรวมปัญหา พร้อมคำตอบในการรับมือกับ ปัญหาหลังแต่งงานที่คุณอาจจะต้องเจอมาให้แล้ว รับรองได้ว่า เวลาเจอกับตัวเมื่อไหร่ ไม่เกิดอาการน็อกคาบ้านแน่นอน

2
Q : ใครบ้างในครอบครัวของอีกฝ่ายที่มีความเสี่ยงจะขัดแย้งกับเรามากที่สุด

A : ขอบอกเลยว่า ทุกคนในบ้านมีสิทธิ์วางมวยกับคุณทั้งหมด อยู่ที่ว่าจริตใครจะโดนต่อมขัดใจของใครก็เท่านั้น เพราะการที่เข้าไปเป็นสมาชิกใหม่ของบ้านหลังใหม่ จะต้องมีการปรับตัวเข้าหากันทั้งนั้น แต่ในความเป็นจริง การที่จะให้คนเก่าที่เคยอยู่กันอย่างมีความสุข มาปรับตัวเพื่อคนใหม่เพียงคนเดียวก็คงจะยาก ฉะนั้นคนที่มีโอกาสขัดแย้งกันมากที่สุดคือ คนที่ไม่ยอมปรับตัวเอง นั่นเองจ้า


Q : บ้านสามีคาดหวังให้สะใภ้เป็นแม่บ้านแม่เรือน เพียบพร้อมทุกด้าน แต่เราเป็นคนทำงานนอกบ้านเก่ง แต่เรื่องในบ้านห่วยแตก จะทำอย่างไรดี

A : ถ้าอยากให้ครอบครัวของสามียอมรับในสิ่งที่ไม่ได้เป็นไปตามคาดหวัง คุณก็ต้องมีสิ่งอื่นมาทดแทนความเป็นแม่บ้านแม่เรือน เช่น คุณอาจหาแม่บ้านมืออาชีพมาช่วยงาน หรือแม้จะทำอาหารไม่อร่อยแต่ก็พยายามเรียนรู้ รวมทั้งการได้รับการยอมรับและชื่นชมในฝีมือการทำงานนอกบ้านจากคนอื่นๆ ก็สามารถทำให้พวกเขาเห็นว่าคุณมีคุณค่ามากกว่าการเป็นแม่บ้านแม่เรือนแล้วละ (แต่บอกไว้ด้วยความหวังดีนะ แม้จะทำงานบ้านได้ห่วยแตก แต่ยังขึ้นชื่อว่าได้ทำ ก็ยังโอเคกว่าไม่ทำเลยนะ)


Q : น้องสาวสามีชอบชวนสามีไปไหนต่อไหนด้วยจนแทบไม่เหลือเวลาส่วนตัว จะมีวิธีใดทำให้รู้สึกสบายใจและได้เวลาของสามีกลับมาเป็นของตัวเองบ้าง

A : ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ชอบใจ แต่ก็ต้องรู้ไว้ว่าเลือดยังไงก็ย่อมข้นกว่าน้ำอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นพยายามทำใจไม่ไห้ปฏิปักษ์ต่อกัน คิดเสียว่าก็ยังดีกว่าโดนสาวอื่นมาจกตัวสามีคุณไม่ใช่หรือ เอาเป็นว่า ลองดูซิว่าน้องสาวสามีจะทำได้อีกนานแค่ไหน แต่ถ้าทำเรื่อยๆ จนคุณทนไม่ไหว ก็แค่เปลี่ยนตัวเองให้กลมกลืนกับพวกเขาไปเสียเลย จงจำไว้ว่าความสำเร็จจากการเรียนรู้ที่จะอดทน รอคอย ปรับตัวและพยายามเข้าใจครอบครัวอีกฝ่าย จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จ และได้ความสุขจากการรอคอยที่หอมหวานอย่างแน่นอน

1

Q : เขาเป็นครอบครัวคนไทย เรามาจากครอบครัวคนจีน ทำอย่างไรจึงจะปรับมาสู่ตรงกลางได้ หรือมีวิธีทำให้อีกฝ่ายยอมรับความต่างได้ไหม

A : เราเชื่อว่าในความต่างย่อมจะมีความเหมือนอยู่ในตัวเอง แค่ไม่ยึดติดกับ “ตัวกูของกู” โดยเริ่มจากเท่านี้คุณก็สามารถที่จะเข้ากับบุพการีของคนที่คุณรักได้แล้ว เพราะถ้าคุณอยากให้เขาเข้าใจคุณ พวกเขาก็อยากให้คุณเข้าใจเขาเหมือนกัน เท่านี้คุณก็สามารถที่จะเข้ากับบุพการีของคนที่คุณรักได้แล้ว


Q : เพื่อนขี้ยุ ญาติช่างเสี้ยม สามีดันเชื่อ ทำอย่างไรให้ฟังกันบ้าง

A : คุณจะต้องรู้ก่อนว่าที่อยากให้เขาฟังคุณเพราะอะไร หรือเพียงแค่อยากมีอำนาจเหนือกว่าคนที่คอยเสี้ยม ซึ่งถ้าคุณอยากให้เขาฟังด้วยความหวังดี คุณก็ต้องจับจุดให้ได้ก่อนว่าอะไรทำให้สามีของคุณหัวอ่อนและเชื่อคนเหล่านั้น และถ้าคุณเจอจุดที่ว่านั้นแล้ว ก็ให้หาข้อเท็จจริงพร้อมหลักฐานมาแสดงเพื่อให้เขาตระหนักถึงความจริงที่เขากำลังเชื่อผิด ๆ อยู่ และใช้คำพูดให้นุ่มนวล พูดอย่างใจเย็น มีเหตุผล และอย่าพึ่งคาดหวังว่าเขาต้องเชื่อคุณทั้งหมด แต่ถ้าคุณอยากให้เธอฟังเพียงเพราะแค่โชว์พาวน์ คุณก็ไม่ต่างอะไรกับตัวเสี้ยมเหล่านั้นหรอก


Q : อยากได้วิธีรับมือความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของอีกฝ่าย เพราะก่อนแต่ง – หลังแต่ง บรรยากาศของครอบครัวอีกฝ่ายต่างกันราวฟ้ากับเหว

A : แม้ว่าความคิดเหล่านี้จะดูโลกสวยไปหน่อย แต่จงจำไว้ว่า มีชีวิตคู่เมื่อไหร่ ชีวิตเราก็ต้องเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน เพราะในการเจอกันครั้งแรกทุกคนก็จะมองว่าคุณเป็นแขก จะทำอะไรก็จะต้องรักษามารยาทกันซักหน่อย แต่เมื่อใดที่คุณกลายมาเป็นทองแผ่นเดียวกับพวกเขาแล้ว ทุกคนก็จะปฏิบัติกับคุณเช่นเดียวกับคนในครอบครัว แต่ถึงกระนั้นก็ขอให้คุณเรียนรู้วัฒนธรรมบ้านเขาไปเรื่อยๆ อีกทั้งหากมีใครมาบ่นอะไรให้คุณฟัง ขอแนะนำว่าให้นิ่งเงียบรับฟังไว้จะปลอดภัยที่สุด เรียกง่าย ๆ ว่าดูเชิงไปก่อนไม่จำเป็นอย่าออกความเห็นเด็ดขาด เพราะจะกลายเป็นว่าคุณได้เลือกข้างไปแล้ว ทีนี้ละความซวยจะตกเป็นของคุณเอง

3


Q : การแยกครอบครัวออกมาอยู่กันเองสองคนสามีภรรยาคือทางออกที่ดีที่สุดหรือเปล่า

A : อย่าถามว่าอะไรดีที่สุด แต่จงเลือกว่าอะไรเหมาะสมที่สุด ซึ่งความเหมาะสมนั้นก็ขึ้นอยู่กับคนสองคนว่าพร้อมที่จะอยู่ด้วยกันและฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกันไหม โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “ต้องรักกันจริง” จึงจะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคไปได้ รวมถึงต้องมีความอดทนในการรอคอยและมองไปข้างหน้าในทางที่ดี คิดในแง่บวก และเจริญสติภาวนาไว้ตลอดเวลา พยายามทำตัวให้กลมกลืนไปกับธรรมชาติที่ย่อมมีการเปลี่ยนแปลง ก็จะสามารถประสบความสำเร็จในชีวิตคู่ได้


Q : เคยแต่งงานมาก่อน กลัวว่าครอบครัวอีกฝ่ายจะตั้งแง่รังเกียจควรวางตัวอย่างไร

A : ยิ้มสู้เข้าไว้ อย่าได้หงุดหงิดหรือน้อยใจเด็ดขาด และพยายามทำให้อีกฝ่ายเห็นด้านดีของคุณให้ได้ แน่นอนความอดทนและเวลาเท่านั้นที่จะช่วยคุณได้ ทั้งนี้ถ้าจะให้เจาะลึกในรายละเอียด ก็ต้องดูว่าสถานการณ์ที่เจอเป็นอย่างไร เช่น ถ้าคุณเป็นฝ่ายเคยแต่งงานมาก่อน ก็นิ่งเฉยไว้เวลาโดนกระทบกระเทียบ อย่าไปตอบโต้ใด ๆ ทั้งสิ้น มั่นใจในเนื้อแท้ที่ดีของตัวเองว่าอดีตไม่เกี่ยวกับปัจจุบัน แต่หากคุณมีลูกติด ก็ควรเคลียร์กับลูกให้ชัดเจนก่อนว่าจะเลือกทางเดินชีวิตแบบไหน พร้อมแล้วจึงค่อยเดินเข้าบ้านอีกฝ่าย เพื่อเวลาโดนคำพูดจี้ใจดำ อย่างน้อยคุณก็มีคำตอบว่าทางคุณไร้ซึ่งปัญหาใด และที่สำคัญจะต้องห้ามแข็งกร้าวและไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรงเด็ดขาดนะจ๊ะ

ทั้งหมดนี้คือคำถามเด็ดๆ เกี่ยวกับแม่ผัว-ลูกสะใภ้ ที่เรารวบรวมมาฝาก หากใครที่มีปัญหาเหมือนกับที่เรานำมาแนะนำแล้วละก็ สามารถนำไปปรับใช้กับชีวิตของคุณๆ กันได้นะจ๊ะ

>> ติดตามคำแนะนำดีๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

ภาพประกอบจาก : mommyish.com, huffingtonpost.com

Recommended