เช็กก่อนสวยก่อนกับทรงกระโปรงเจ้าสาวแบบไหนที่ใช่กับรูปร่างคุณ

เราเคยแนะนำชื่อเรียกท่อนบนของชุดเจ้าสาวกันไปแล้วนะคะ วันนี้ แพรว Wedding ค้นพบความสับสนเกี่ยวกับชุดเจ้าสาวท่อนล่างจากคำถามหลังไมค์ว่าทรง กระโปรงเจ้าสาว แต่ละแบบเรียกว่าอะไรถึงจะถูกต้อง? เจอคำถามแบบนี้เราเลยไปหาคำตอบมาให้จ้า

ballgown1. Ball Gown

ทรงกระโปรงที่ได้รับความนิยมแบบอมตะนิรันดรกาล จะกี่ยุคกี่สมัยสาวๆ ก็ยังนิยมชมชอบที่จะเลือกใส่ โดยลักษณะของกระโปรงจะต่อจากท่อนบนตรงเอว ซึ่งจะรัดช่วงเอวให้ดูเล็กและเข้ารูป และโค้งลงมาเป็นทรงระฆังคว่ำ บาน พอง และฟู เหมาะกับเจ้าสาวที่ตัวสูง เอวหน้า และสะโพกใหญ่

a-line2. A-Line

ตัวกระโปรงจะบานออกตั้งแต่ช่วงเอวทิ้งยาวลงไปถึงพื้นเป็นรูปทรงตัว A แต่ลักษณะโดยรวมจะแคบ และไม่พองฟูมากนัก ช่วยพรางสะโพกและต้นข้าได้ดี แถมยัง เหมาะกับเจ้าสาวทุกรูปร่าง โดยเฉพาะกับเจ้าสาวที่ตัวเตี้ย การเลือกใส่ชุดเจ้าสาวทรง A-Line จะช่วยทำให้ดูสูงขึ้น

princess3. Princess

กระโปรงทรงนี้มีพื้นฐานมาจากทรง A-Line มีความพองและฟู แต่ไม่เท่ากับทรง Ball Gown ช่วงบนจะเข้ารูปแล้วจึงบานออกยาวลงมาจนถึงพื้น อาจเน้นให้มีความพองในช่วงด้านหลัง อีกทั้งปลายกระโปรงค่อนข้างยาวจึง เหมาะกับเจ้าสาวที่ตัวผอมสูง

mermaid4. Mermaid

ชุดเจ้าสาวทรงเมอร์เมดจะมีตัวเสื้อท่อนบนยาวขึ้น เข้ารูป เน้นให้เห็นทรวดทรงองค์เอวชัดเจน ตัวกระโปรงจะเริ่มบานออกตั้งแต่ช่วงต้นขาหรือหัวเข่าลงไป เหมาะกับเจ้าสาวที่มั่นใจว่าตัวเองเป็นคนสูง หุ่นดี อยากโชว์ความเป๊ะของเรือนร่าง รวมถึงเจ้าสาวที่มีรูปร่างแบบทรงนาฬิกาทรายด้วย ส่วนเจ้าสาวคนไหนที่ตัวเตี้ย เราแนะนำให้ลีกเลี่ยงชุดทรงเมอร์เมด เพราะมันอาจจะทำให้คุณดูเตี้ยและตันมากขึ้น

sheath5. Sheath

ชุดเจ้าสาวทรง Sheath ดูจะเป็นชุดที่ใส่แล้วสบายที่สุดนะคะ ด้วยความที่เป็นชุดเจ้าสาวทรงตรง ดูเรียบง่าย ไม่รัดรูปให้เห็นสัดส่วนมากนัก ลักษณะชุดจะทิ้งตัวลงมาตรงๆ ยาวกร่อมพื้น เหมาะกับเจ้าสาวหุ่นดี สูงเพรียว ส่วนเจ้าสาวที่สะโพกใหญ่หรือมีหน้าท้องต้องระวัง เพราะถ้าใส่อาจจะทำให้เห็นหน้าท้องยื่นออกมาชัดเจน หรือถ้าจะให้ดีก็เลี่ยงไปใส่ชุดแบบอื่นแทนก็ได้

empire6. Empire

ใครที่นึกภาพชุดทรง Empire ไม่ออกต้องลองนึกไปถึงภาพยนตร์แบบกรีกหรือโรมันโบราณนะคะ ซึ่งชุดสาวแบบนี้ก็เป็นอีกหนึ่งชุดที่เรียกได้ว่าใส่สบายเหมือนกัน โดยตัวกระโปรงจะต่อลงมาจากใต้อก แล้วแต่ว่าจะปล่อยเป็นชายบานพลิ้ว หรือเข้ารูปก็ได้ เหมาะกับเจ้าสาวสูงเพรียว รูปร่างเล็ก หน้าอกแฟบ ส่วนใครที่มีหน้าอกสะบึ้มคงต้องเลี่ยงนะคะ เพราะชุดนี้จะเน้นอกให้ดูใหญ่มากขึ้น

tea-length7. Tea-Length

อีกหนึ่งทางเลือกของเจ้าสาวที่ไม่อยากใส่ชุดยาวๆ ลากพื้น แต่ก็ไม่อยากใส่ส้นจะดูไม่ดี ชุดเจ้าสาวแบบ Tea-Length จึงเป็นชุดที่ตอบโจทย์คุณมาก ด้วยความยาวของชุดในระดับคลุมเข่า ไม่สั้นไป ไม่ยาวไป ตัวกระโปรงจะบานพลิ้วแบบทรงเอไลน์ ว่าที่เจ้าสาวคนไหนที่มองหาชุดใส่ในพิธีหมั้นหรือช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ ลองเก็บทรงนี้ไว้พิจารณาก็ดีเหมือนกันนะ

จัดมาให้ครบทั้ง 7 แบบ 7 สไตล์ชุดเจ้าสาวกันแล้ว ใครที่ชอบชุดแบบไหน สไตล์ไหน ก็ลองนำกลับไปคิดดูว่าชอบแบบไหน เหมาะกับสภาพร่างกายตัวเองไหม ใส่แล้วจะสวยหรือเปล่า ลองเลือกดูหลายๆ แบบ แล้วคุณก็จะได้ชุดที่ดีที่สุดสำหรับวันสำคัญของตัวคุณเองนะจ๊ะ

ติดตามไอเดียเกี่ยวกับชุดแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

ข้อมูลจาก : davidsbridal.com, bubpha-wedding.com
ภาพบางส่วนจาก : www.davidsbridal.com, www.theknot.com

Recommended